แร่ธาตุและวิตามินเพื่อคนลดน้ำหนัก

วันนี้ออกจะเป็นเรื่องวิชาการอยู่หน่อยๆ แต่รับรองว่ามีประโยชน์ต่อคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่แน่นอน ซึ่งนั่นก็คือแร่ธาตุและวิตามินที่คนลดน้ำหนักควรรู้จัก สำหรับคนที่จะไปซื้ออาหารเสริมหรือคนที่กำลังหาอะไรมาปรุงอาหาร คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง ลองมาดูกันเลยดีกว่า  วิตามินบี วิตามินบีเป็นวิตามินที่ดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักเพราะมันสามารถนำไปใช้เพื่อผลิตพลังงานและยังจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดี วิตามินบียังสามารถช่วยตับและตับอ่อนในการเผาผลาญไขมันที่เป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนัก วิตามินบี6 ทำงานร่วมกับสังกะสีเพื่อเพิ่มเอนไซม์ในตับอ่อนเพื่อไปช่วยย่อยอาหารอีกที และจากการย่อยอาหารที่เหมาะสมกับวิตามินบี5 ก็จะสามารถทำลายคาร์โบไฮเดรตและไขมันลงได้อย่างง่ายดาย สุดท้ายคือวิตามินบี1 และบี2 ที่ช่วยในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นพลังงานและช่วยรีดเร้นพลังงานที่เก็บไว้ในร่างกายออกมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการรับประทานวิตามินบีเข้าไปในแต่ละวันนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ควรทำสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะวิตามินบีนั้นละลายน้ำและขับออกจากร่างกายได้ภายในวันเดียวเท่านั้นเอง  โคลีน โคลีนนั้นถือเป็นสารอาหารสำคัญในการลดน้ำหนักซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบีแต่โคลีนนั้นไม่ใช่วิตามินซะทีเดียว ซึ่งโคลีนนั้นมีบทบาทในการเพิ่มระดับไขมันดีและลดระดับของไขมันเลวแล้วยังลดโคเรสเตอรอลอีกด้วย จึงทำให้มีผลในการป้องกันภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจด้วย ส่วนอาหารที่มีโคลีนอยู่นั้นก็คือ ไข่แดง, จมูกข้าวสาลี, กะหล่ำ, แตงกวาและถั่วลิสง  แคลเซียมและโครเมียม แร่ธาตุอย่างแคลเซียมและโครเมียมนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมของวิตามินและอาหารเสริม โดยแคลเซียมนั้นเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่สำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนัก ถ้าคุณได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมคุณก็จะมีไขมันในร่างกายน้อยไปด้วย ถ้าหากคุณกำลังจะไปซื้ออาหารเสริมก็ดูฉลากด้วยล่ะว่ามีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยหรือเปล่า ในผู้ใหญ่นั้นควรได้รับวันละ 300 มิลลิกรัม ส่วนโครเมียมนั้นก็ส่งผลต่อการลดน้ำหนักเช่นกัน เพราะมันสามารถสลายคาร์โบไฮเดรตและไขมันได้โดยจะทำงานร่วมกับอินซุลินที่ผลิตมาจากตับอ่อนนั่นเอง ถ้าหากคุณไม่ได้รับปริมาณโครเมียมที่เพียงพอ ร่างกายคุณก็จะประสบกับปัญหาในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพราะมันจะเป็นเรื่องยากในการสลายอาหารให้เป็นพลังงานถ้าหากคุณขาดโครเมียม ซึ่งในผู้ใหญ่นั้นควรได้รับวันละ 50-300 ไมโครกรัม ถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยอยู่พอสมควรเลยทีเดียว (1 มิลลิกรัม = 1000 ไมโครกรัม) และก็เช่นกัน ถ้าหากจะซื้ออาหารเสริมมารับประทานก็ตรวจดูด้วยล่ะว่ามีโครเมียมอยู่หรือเปล่า 2012 [...]  See More..